เราให้ความสำคัญในเรื่องความเป็นส่วนตัวของผู้บริโภคชาวเม็กซิกันและมุ่งมั่นที่จะเก็บรวบรวม ใช้ จัดเก็บ คุ้มครอง เปิดเผย และแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของคุณตามกฎหมายสหพันธ์ของเม็กซิโกว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่จัดเก็บไว้โดยคู่สัญญาฝ่ายเอกชน (Ley Federal de Protección de Datos Personales en Posesión de Particulares) บทเสริมของนโยบายความเป็นส่วนตัวสากลของ Western Union สำหรับผู้อาศัยในเม็กซิโกนี้ (“บทเสริม”) ซึ่งบังคับใช้กับผู้อาศัยในเม็กซิโกและร่วมกับนโยบายความเป็นส่วนตัวสากล มีจุดมุ่งหมายเพื่อระบุถึงข้อกำหนดของกฎหมายสหพันธ์ของเม็กซิโกว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่จัดเก็บไว้โดยคู่สัญญาฝ่ายเอกชน ในเม็กซิโก ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลของ Western Union ที่เกี่ยวข้องได้แก่ Grupo Dinámico Empresarial S.A. de C.V., Servicios de Apoyo GDE SA de CV, Operaciones Internacionales OV S.A. de C.V. และ Servicio Integral de Envíos, S.A. de C.V. โดยมีที่อยู่ตามหน้าหนังสือรับรองอยู่ที่ Av. Paseo de la Reforma No. 505, piso 17, Colonia Cuauhtémoc, Delegación Cuauhtémoc, C.P. 06500, Ciudad de México
วิธีการที่ WESTERN UNION ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
เราประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของคุณเพื่อวัตถุประสงค์หลักต่อไปนี้:
เรายังประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของคุณเพื่อวัตถุประสงค์รองที่ไม่ได้เป็นสาระสำคัญต่อไปนี้ด้วย:
Western Union จะไม่เก็บรวบรวมหรือใช้ข้อมูลส่วนบุคคลที่เป็นความลับของคุณในขณะที่เราให้บริการคุณ
ข้อมูลชีวมาตร
นอกจากข้อมูลส่วนบุคคลที่กล่าวถึงข้างต้น เรายังแจ้งให้คุณทราบด้วยว่าเมื่อคุณตัดสินใจจะใช้บริการโอนเงินของ Western Union ผ่านแอปพลิเคชันมือถือของเรา ผู้จัดการจะเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลชีวมาตรของคุณซึ่งบอกถึงคุณลักษณะทางกายภาพและทางสรีระของคุณ เช่น ใบหน้าของคุณเพื่อการจดจำใบหน้าและลายนิ้วมือด้วยเช่นกัน ผู้จัดการจะส่งข้อมูลชีวมาตรดังกล่าวพร้อมด้วยรูปถ่ายเอกสารประจำตัวที่ทางราชการออกให้ไปยังหน่วยงานผู้มีอำนาจในเม็กซิโกเพื่อการตรวจสอบความถูกต้องโดยเฉพาะ
ในการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลชีวมาตรและเอกสารประจำตัวที่ทางราชการออกให้ที่นำมาแสดง ฝ่ายที่รับผิดชอบจะปฏิบัติตามภาระผูกพันเพื่อทราบและตรวจสอบยืนยันตัวตนของคุณในฐานะผู้ส่งเงินโอนในเม็กซิโก ตามระเบียบข้อบังคับที่บังคับใช้ในฐานะผู้ส่งเงิน
การใช้สิทธิ ARCO
ในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล คุณอาจใช้สิทธิในการเข้าถึง แก้ไข ยกเลิก และ/หรือคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ (“สิทธิ ARCO”) และเพิกถอนความยินยอมของคุณเกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลใด ๆ ที่ละเมิดข้อกำหนดของนโยบายความเป็นส่วนตัวสากลนี้ได้ทุกเมื่อด้วยการส่งคำขอที่เป็นลายลักษณ์อักษรไปยังแผนกดูแลความเป็นส่วนตัวของข้อมูลของเราที่ wuprivacy@westernunion.com ตราบเท่าที่การคัดค้านและ/หรือการยกเลิกที่ขอไม่สร้างความเสียหายต่อสิทธิของบุคคลภายนอกและเป็นไปตามมาตรา 34 ของกฎหมาย
คำขอของคุณต้องมี: 1) ชื่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล 2) ที่อยู่ที่ใช้รับการตอบกลับคำขอ 3) เอกสารที่ทางราชการออกให้ซึ่งแสดงถึงตัวตนของเจ้าของข้อมูล หรือหลักฐานการเป็นตัวแทนทางกฎหมายของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หากมี และ 4) คำอธิบายที่ละเอียดชัดเจนเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลที่คุณประสงค์จะใช้สิทธิ ARCO ของคุณ
คำขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลต้องมีข้อมูลการเปลี่ยนแปลงแก้ไขที่คุณประสงค์จะดำเนินการและหลักฐานสนับสนุนคำร้องดังกล่าว คำขอเกี่ยวกับการเพิกถอนคำยินยอมต้องมีการสื่อสารอย่างชัดเจนว่าคุณประสงค์จะเพิกถอนความยินยอมเกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลบางรายการ และเหตุผลของการเพิกถอนดังกล่าว หากมี
เมื่อได้รับคำขอจากคุณ เราจะแจ้งให้คุณทราบถึงวิธีแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้องภายในระยะเวลา 20 (ยี่สิบ) วันทำการ โดยที่วิธีแก้ไขปัญหาดังกล่าวจะมีผลอีก 15 (สิบห้า) วันทำการหลังวันที่มีการแจ้งให้คุณทราบถึงวิธีแก้ปัญหาดังกล่าวเป็นลายลักษณ์อักษรหรือทางอีเมล อาจขยายระยะเวลาที่กล่าวถึงข้างต้นได้ครั้งหนึ่ง ตราบเท่าที่มีการให้เหตุผลที่เหมาะสมในการขยายระยะเวลาดังกล่าว
ความยินยอมให้จัดการกับข้อมูลส่วนบุคคล
ในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล คุณจะต้องยืนยันว่าได้อ่านและตกลงตามข้อกำหนดและเงื่อนไขที่กำหนดไว้ของประกาศความเป็นส่วนตัวนี้ที่มีไว้สำหรับคุณ โดยรับทราบวัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวมและการจัดการกับข้อมูลส่วนบุคคลของคุณและข้อมูลส่วนบุคคลที่สร้างขึ้นมา รวมถึงกระบวนขั้นตอนในการใช้สิทธิ ARCO และการเพิกถอนความยินยอมของคุณ
ข้าพเจ้ายินยอมและอนุญาตให้มีการเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลชีวมาตร (ลายนิ้วมือและการจดจำใบหน้า) ของข้าพเจ้าโดย Servicio Integral de Envíos, S.A. de C.V. และ Operaciones Internacionales OV, S.A. de C.V. ตามเงื่อนไขของประกาศความเป็นส่วนตัวนี้
ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณจะได้รับการจัดการตามระดับการคุ้มครองที่กฎหมายกำหนด